จังหวะนรก แยนซี่ เมเดรอส จูเนียร์ นักชกมวยกรง เผยตนพบเจ้าหน้าที่ตรวจโด๊ปสหรัฐอเมริกา บุกสุ่มตรวจในยามวิกาลซึ่งตอนนั้นกำลังทำกิจกรรมการทำศึกใต้สะดือกับแฟนสาวอย่างเมามัน
จังหวะนรก แยนซี่ เมเดรอคอยส จูเนียร์ นักสู้มวยกรงของ “ยูเอฟซี” (UFC) เปิดเผยเรื่องที่อีกทั้งหงุดหงิดคละเคล้าขำเมื่อโดนหน่วยงานตรวจสารกระตุ้น (ยูเอสเอดีเอ) ในประเทศประเทศสหรัฐอเมริกา บุกสุ่มตรวจสารกระตุ้นถึงที่บ้านพัก ซึ่งในตอนนั้นตนกำลังเริ่มจะมีเซ็กซ์แบบเข้าด้ายเข้าเข็มกับแม่ยอดขมองอิ่มอยู่ข้างในห้องนั่งพักผ่อนพอดิบพอดี
เป็นเรื่องปกติที่หน่วยงานด้านการตรวจค้นสารกระตุ้นนักกีฬาในดินแดนมะกัน จะกระทำสุ่มตรวจโด๊ปบรรดานักกีฬาเพื่อจะป้องกันการโกงหรือใช้แนวทางคดโกงสำหรับการตรวจค้นสารกระตุ้น แม้กระนั้นสำหรับสถานะการณ์คราวนี้ดูอย่างกับว่า “ยูเอสเอดีเอ” จะดันมาไม่ถูกเวลาไปหน่อย เนื่องจากว่าพวกเขามาที่บ้านของ เมเดรอส ในตอนที่เจ้าตัว กำลังทำกิจกรรมตามจังหวะอย่างบ้าเลือดกับหวานใจ
เจ้าหน้าที่ยูเอสเอดีเอ ได้กระทำเคาะประตูเพื่อที่จะนำตัวอย่างปัสสาวะของ เมเดรอส ไปตรวจ โดยหารู้ไม่ว่า ในเวลานั้น เมเดรอส จูเนียร์ ติดภารกิจออกศึกใต้สะดืออย่างถึงพริกถึงขิงกับแฟนสาวของเขาภายในห้องนั่งเล่น และก็จำเป็นที่จะต้องหยุดกิจกรรมผลิตมวลชนกลางทาง เพื่อไปดูว่ามีคนใดกันแน่มา ก่อนจะบอกให้ข้าราชการตรวจโด๊ปรออยู่ด้านนอก กระทั่งมีเซ็กซ์เสร็จสมบูรณ์ ถึงค่อยให้เข้ามาในบ้าน ดูมวยสดวันนี้
เมเดรอส เจ้าของฉายา “เดอะ คิด” ระบายความรู้สึกผ่าน ทวิตเตอร์ เว็บที่ได้รับความนิยมว่า “ผมกำลังมีเซ็กซ์ อยู่ในห้องนั่งเล่น และอยู่ดี หน่วยงานต่อต้าสารกระตุ้น ก็เคาะประตูบ้านของผมตอนเวลาสองทุ่ม ซึ่งผมกำลังอยู่ในตอนที่ถึงพริกถึงขิงพอดิบพอดี”
“เขาพยายามทำตัวเป็นมืออาชีพ ด้วยเหตุว่าผม มองเห็นบริเวณใบหน้าของเขาซึ่งคงจะได้ยินเสียงต่างๆที่ดังออกมานั่นแหละ ประเด็นการตรวจโดนทั้งยังหลังหรือก่อนการแข่งขันชิงชัยผมเคยทำมาแล้ว แต่ว่าการสุ่มเดาตรวจในตอนระหว่างมีเซ็กซ์พึ่งจะพบเป็นครั้งแรก” เมเดรอส กำหนด
แยนซีเมเดคอยสเนียร์นักสู้มวยกรงของ UFC เผยผ่านโลกโซเชียลว่าถูกข้าราชการจากวิเคราะห์สัญญาณเตือนมาหาแบบไม่ให้สุ้มให้เสียงแถมยังมาตอนกำลังทำกิจกรรมเข้า จังหวะกับคนรัก
ทะเลาะกันเกิดขึ้นเมื่อ USADA ซึ่งเป็นคิวงานตรวจสารพิษในช่องแคบไปพบเมเดรอสเนียร์ถึงบ้านพักแบบไม่มีแจ้งซึ่งจังหวะนั้นนักสู้มวยกำลังมีคนรักอยู่ที่ ห้องนั่งเล่น
เสียงประตูแบบไม่บอกเลิกของทีมงาน USADA นักสู้วัย 33 ปีคาดจนถึงจะต้องหยุดทำกิจกรรมกะเพราและเปิดประตูให้แขกเข้ามาตรวจสอบซึ่งข้างหลังจบงานและก็ระบายผ่านตเตอร์ อย่างเซ็งๆ
“ ผมเริ่มจะมีคนอยู่ที่ห้องนั่งเล่นแล้ว USADA ก็มาถึงประตูบ้านผมตอน 2 ตอนในช่วงเวลานั้นกำลังเข้ามาแนะนำคูชิอยู่ด้วยเรื่องสนุกเป็นเขาให้ผมเป็นมือโปรมองจากเขาแล้วมีความคิดว่าคงจะได้ยินเสียงที่ ออกไปฐาน”
“ ผมเคยโดนตรวจโดตักมาหมดแล้วอีกทั้งก่อนรวมทั้งข้างหลังขึ้นสังเวียน แม้กระนั้นมาตรวจแบบไม่ให้สุ้มให้เสียงนี่พึ่งจะเคยพบเป็นครั้งแรกย้อย” นักสู้ชายหนุ่ม UFC เจาะจง
สำหรับตรวจทานสารสัญญาว่าจ้างของอัตราเป็นที่ ทราบกันดีว่าถูกใจพวกเราไปพบถึงยังหน้าบ้านแฟนโดยไม่บอกกันก่อนเพื่อตรวจค้นสารานุกรมในแบบที่นักกีฬาไม่อาจจะหลบหนีได้ซึ่งก่อนหน้าที่ผ่านมาก็เกลียดชังจากการสำรวจว่าถูกใจมาตอนกำลังยุ่ง ชนะเพราะเก๋า
เนื่องจากว่าเป็นนักมวย ที่มีคาแร็คเตอร์ กวนโอ๊ยและ จองหองสำหรับในการให้สัมภาษณ์แต่ละไฟต์ ด้วยเหตุดังกล่าว นักต่อยคน จำนวนไม่น้อยเพียรพยายามที่จะคว่ำเขาให้ได้ ไม่ว่าจะเป็น เจนาโร เฮอร์นานเดซ, โฆเซ่ หฝ่าส์ กาสติโญ่ และก็ เดอร์มาคัส คอร์ลี่ย์ ด้วย พวกเขาบางครั้งก็อาจจะสู้เจริญ รวมทั้งใกล้เคียงกับการโค่นฟลอยด์ แต่ว่ามันก็ไม่มากพอ … ท้ายที่สุดคิวของการท้าทายชิงก็วนมาถึงเพื่อนเก่า เพื่อนพ้องแก่ของ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ อย่าง อร่อย
ฟลอยด์ เป็นเสมือนไก่มองเห็นตีนงูงูเห็นนมไก่ ทั้งคู่รู้ไส้รู้พุงกันอย่างดีเยี่ยมเนื่องจากเติบโตในแวดวงมวย สมัยเดียวกัน ทั้งสองเป็น นักชกที่เข้าแคมป์คัดเลือกตัวกลุ่มชาติอเมริกาในโอลิมปิกปี 1996 ที่ แอตแลนต้า แม้กระนั้นอยู่คนละรุ่น (จูดาห์ – ไลท์เวลเตอร์เวต, เฟเธอร์เวต) ซึ่งหากแม้จูดาห์จะไม่ได้ไปแข่งในรอบท้ายที่สุด แต่เท่านี้ก็พอเพียงสำหรับเหตุผลที่เพราะอะไร ถึงออกจะแน่ใจว่า จะได้พบกับความ ยากลำบากบนสังเวียน เยอะที่สุดถ้าได้ต่อยกับเขา
“ผมรู้จักเขา และก็เขาก็รู้จักผมดี ตอนปี 1996 พวกเราเป็นเพื่อนซี้กันเลย มีผม, เขา แล้วก็ ซาฮีร์ ราฮีม ส่วนตัวผมนั้นได้โอกาสได้พบกับ บนเวทีประจำในทัวร์นาเมนต์ต่างๆเขามาจากดีทรอยต์ รวมทั้งผมมาจากนิวยอร์ค” เล่าถึงความหลัง เมื่อครั้งสมัยก่อน
ภายหลังที่ทั้งสองเทิร์นโปรต่างคนต่างก็แยกย้ายไปคนละทาง นั้นย้ายไปอยู่ภายใต้การดูแลของ ดอน คิง ที่เคยเป็นโปรโมเตอร์ของ มูฮัมหมัด อาลี รวมทั้ง ไมค์ ไทสัน ระหว่างที่ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ได้เข้าขึ้นอยู่กับของบ็อบ อารัม ซึ่งแน่ๆว่าทั้งคู่ค่ายนับว่าเป็นศัตรูกันโดยตรง พวกเขาอยากได้สร้างแชมป์โลกขึ้นมาเพื่อหาผลสรุปว่าค่ายไหนกัน แน่เป็นค่ายที่ดียิ่งกว่ากัน
ตัวของจูดาห์ เทิร์นโปรตั้งแต่ปี 1996 และก็ก่อนที่จะพบฟลอยด์ เขาครองสายรัดเอว IBF รุ่นเวลเตอร์เวท ส่วนฟลอยด์ เวลานี้เป็นแชมป์ไม่มีพ่ายแพ้ 3 รุ่น ด้วยเหตุนี้ นี่ก็เลยเป็นอีกหนึ่งไฟต์ยิ่งใหญ่ที่คนจำนวนไม่น้อยรอ แต่ทว่าก่อนไฟต์นี้กำเนิดจุดแปลงนิดหน่อย เมื่อจูดาห์ ดันไปเสียท่าแพ้ เสียสายรัดเอวแชมป์รุ่นเดียวกันของ WBC ให้กับ คาร์ลอส บัลโดภรรยาร์ เมื่อต้นปี 2006 ทำให้การต่อยระหว่างจูดาห์ กับฟลอยด์ ที่แต่เดิมคิดแผนไว้ภายในเมษายนปี 2006 จำต้องหยุดชะงักลง
จังหวะนรก แม้กระนั้น 2 โปรโมเตอร์ผู้มีอำนาจนั่งคุยเพื่อหาผลสรุปของไฟต์นี้กันใหม่ ซึ่งแต่เดิมฟลอยด์ จะได้การันตีค่าต่อยที่ 6 ล้านเหรียญ และก็จูดาห์ ได้รับยืนยัน 3 ล้านเหรียญ แต่ว่าเพียงพอจูดาห์แพ้บัลโดภรรยาร์ ที่ผ่านมา ก็ทำให้ราคาของไฟต์ระหว่างเขากับฟลอยด์ลดน้อยลง เขายอมรับค่าต่อยเพียงแต่ 1 ล้านเหรียญ ในขณะที่ฟลอยด์ ได้รับรับรองที่ 5 ล้านเหรียญสหรัฐโดยการต่อยยังเป็นไปตามระบุเดิม แต่ว่านาทีนั้นเขาไม่สนใจแล้ว เขาแน่ใจว่าด้วยสไตล์มวยของเขาจะโค่นอำนาจฟลอยด์ลงได้
“มันคือเรื่องของความฉลาด ผมเป็นผู้ที่เก่งที่สุดในแวดวงมวยรวมทั้งนั่นเป็นต้นเหตุว่าเพราะอะไรผมถึงยังไม่มีปราชัย” ฟลอยด์ กล่าวอย่างแน่ใจก่อนขึ้นสังเวียน ช่วงเวลาที่ด้านของ ตอบกลับสั้นๆ ว่าถึงวันต่อยทุกคนจะได้มองเห็นเอง
“ฟลอยด์ เป็นนักมวยที่ปากเสีย พวกเราจะเจอะกันในวันที่ 8 ม.ย.นี้ แล้วพวกเรามาดูกันว่าเขาจะยังปากเก่งอย่างนั้นอีกไหม?” อร่อยตั้งประเด็น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดที่ทำให้ตั๋ว ในไฟต์นี้ขายดิบขาย ดีเป็นเทน้ำเทท่า
เริ่มไฟต์ด้วยความร้อนแรง เขาห้าวหาญเปิด ยกแรกด้วยการท้าทายจุดเเข็งที่สุดจุดหนึ่งของ ฟลอยด์ โน่นเป็น “ความเร็ว” ที่ จูดาห์ ใช้การหลบรวมทั้งดักต่อย 1-2 จนกระทั่งแฟนคลับที่ ลาส เวกัส กลมเกลียวพร้อมใจเฮกันหลายหน ไม่เชื่อก็จำเป็นต้องเชื่อ บอกให้เห็น อย่างชัดเจนว่าเขาเร็วกว่า
จังหวะนรก ความเร็วที่ว่าแจ๋วและเรียกเสียงฮือฮายังไม่เท่าไฮไลต์ในยกที่ 2 เมื่อ ฟลอยด์ ทันทีเข้ามาหมายจะเล่นลำตัวของคู่ต่อย แต่ว่ามันเข้ามาในรัศมีของ จูดาห์ ก่อนที่จะเจ้าตัวจะดักชกด้วยหมัดขวาที่ฟลอยด์ คาดไม่ถึงเข้าเต็มหน้า ก่อนที่จะ “พริตตี้บอย” จะเซจนถึงหัวเข่าติดพื้น
โน่นต้องเป็นช็อตที่ ควรจะคะแนนพุ่ง ขึ้นมาเพราะจากภาพช้ามันเห็นได้ชัดๆว่าหมัดขวาของเขาโดนหน้าของฟลอยด์ อย่างจัง แต่ทว่าคณะกรรมการตัดสินว่าจังหวะเซจนเข่าเเตะพื้นของ ฟลอยด์ เกิดจากการก้าวพลาด และลื่นของเจ้าตัวเอง