ตะวันฉายมั่นใจ ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยมวยมวยไทยยิม ไม่หวั่นหวาดถึงแม้จำต้องหามน้ำหนักต่อยรุ่นใหญ่กับ “สิทธิชัย ศิษย์สองญาติ”

ตะวันฉายมั่นใจ เชื่อมั่นหากเป็นมวยไทยตนยังเหนือกว่า โดยทั้งสองจัดแจงใส่กันแบบไม่ยั้งในศึก ONE: BATTLEGROUND III ซึ่งจะเป็นเทปการประลอง กระจายเสียงในวันศุกร์ที่ 27 เดือนสิงหาคมนี้

พระอาทิตย์ฉาย เกิดภาวะช็อกเล็กๆเมื่อทราบว่า ศึกเพื่อนรักหักเหลี่ยมชั่วร้าย ที่ถูกวางตัวให้ตามติดคู่กับ “เสมาเพชร แฟร์เท็กซ์” มีอันจะต้องเลิกล้ม

ตะวันฉายมั่นใจ

เพราะผู้ฝึกสอนคู่ใจของนักมวยค่ายแฟร์เท็กซ์ส่งผลตรวจไวรัสโควิด-19 เป็นบวก ทำให้ ใบเสมาเพชร ซึ่งเป็นคนสนิท โดนหางเลขจำเป็นต้องถอนตัวจากการต่อยไปโดยปริยาย

ตะวันฉาย ซึ่งทำน้ำหนักมาต่อยในรุ่นแบนตัมเวต 65.8 กิโลกรัม ก็เลยเลื่อนลอยไม่มีคู่ต่อย พอเหมาะพอเจาะพอดิบพอดีกับที่ “ไทฟุน ออสแคน”

คู่ต่อยประเทศตุรกีที่เกาะติดให้เจอ สิทธิชัย ในข้อตกลงคิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟคุณร์เวต 70.3 กิโลกรัม กำเนิดเจ็บก่อนวันแข่งราวหนึ่งอาทิตย์ https://www.musokai.org

ชะตาชีวิตก็เลยพา ตะวันฉาย รวมทั้ง มาเจอะกัน ทั้งสองก็เลยตกลงใจเจอกันกลางทาง โดย พระอาทิตย์ฉาย เต็มอกเต็มใจปรับน้ำหนักเพิ่มไปต่อยรุ่นเฟเธอร์เวต ส่วน ก็ยอมผ่านสายมาต่อยในข้อตกลงมวยไทยแทน

การเปลี่ยนคู่ต่อยแบบกะทันหัน ย่อมกระทบกับแนวทางฝึกทั้งปวงที่ตระเตรียมไว้ พระอาทิตย์ฉาย จะต้องแบกรับการเสี่ยงกับการตัดสินใจดวลแถวหน้าคิกบ็อกซิ่งสุดยอดอย่าง สิทธิชัย

ตะวันฉายมั่นใจ ในตอนโค้งสุดท้ายที่เหลือเวลาเพียงแค่อาทิตย์เดียว แต่ว่าดูอย่างกับว่าเจ้าตัวมิได้กลุ้มอกกลุ้มใจอะไรหนัก แถมยังคิดว่าตัวเองเหนือกว่านักต่อยรุ่นพี่อยู่หลายแต้มด้วย

ตะวันฉาย เห็นว่าหากแม้ตนเองจะหามน้ำหนักเพิ่มขึ้นมา แม้กระนั้นเขาไม่มีปัญหาประเด็นนี้ ส่วน นั้นนอกเหนือจากการที่จะร้างเวทีมาเป็นปีแล้ว ยังห่างเหินจากการชกมวยไทยมานาน ข่าวมวย วันนี้

ตะวันฉายมั่นใจ

ถ้าหากไม่นับไฟต์ที่ต่อยในมาเก๊าเมื่อปีสองที่แล้ว ก็ห่างเหินจากข้อตกลงมวยไทยมาแทบ 7 ปี แม้กระนั้นถึงแบบงั้น พระอาทิตย์ฉายก็จะไม่ประมาทรุ่นพี่ที่มีทั้งยังความแข็งแกร่งรวมทั้งประสบการณ์แน่ๆ

ตะวันฉายมั่นใจ “พี่เม เป็นนักมวยที่มีชื่อบารมีเยอะแยะ ถ้าหากชนะเขา ซึ่งเป็นสุดยอดได้ คนทั้งโลก ก็จะเห็นด้วยผม แล้วก็จะมีชื่อเสียงมากยิ่งขึ้น ไฟต์นี้ผมก็เลยตั้งอกตั้งใจ มากมาย เพราะเหตุว่าผม ก็ต้องการได้โอกาสชิงชนะเลิศโลก ONE ซึ่งหากเป็นรุ่นนี้ผม ก็จะได้พบกับ เพชรมรกต นะครับ”

ตะวันฉายมั่นใจ “การต่อยข้อตกลงมวยไทย เป็นสิ่งที่ได้เปรียบ เดียวของผมเลยขอรับ มวยไทยเป็นทางของผม พี่เขามิได้ต่อยข้อตกลงนี้มานานแล้ว ส่วนเรื่องที่จะน็อก ไม่น็อกนั้น พี่เขาก็ แข็งเช่นกันครับผม พื้นฐานขอชนะให้ได้ไว้ก่อน ได้โอกาสน็อกหรือเปล่าค่อยว่ากันหน้างาน ไฟต์นี้ไม่มีเกรงอกเกรงใจญาติพี่น้อง บวกได้บวกขอรับ”

“ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” ผู้ครอบครองสมญานาม “ซ้ายศิลปิน” แม้ว่าจะเป็นถึงนักมวยระดับซุปเปอร์สตาร์ที่มีคนชื่มดูล้นหลาม เขาก็สารภาพว่ายังมีผู้ที่ดูแคลนความสามารถของเขาว่า ไม่อาจจะไปได้ไกลกว่านี้บนทางนักสู้ โค้ชรุ่นเก๋า

โดยเฉพาะ เมื่อ ได้เข้าขึ้นอยู่กับ วัน แชมเปียนชิพ ซึ่งเป็นเวทีใหญ่ สุดยอดที่อัดแน่น ไปด้วยนักสู้ยอดความสามารถจากทั้งโลก เขาก็ยิ่งโดนจับ ตามองเป็นพิเศษ ว่าจะสามารถ จัดการนักต่อยฝรั่ง ที่มีสไตล์การต่อยต่างจากนักต่อยไทยที่เขาคุ้นมือได้ไหม

อย่างไรก็แล้วแต่ การคว้าแชมป์น็อก ฌอน แคลุกลนซี คู่แข่งขันชาวไอริช ในไฟต์เปิดตัวในศึก ONE: DANGAL เมื่อ 15 เดือนพฤษภาคมก่อนหน้านี้ที่ผ่านมานั้นอาจคลายความไม่เชื่อใจในความรู้ความเข้าใจของนักมวยชายหนุ่มดาวรุ่งคนนี้ได้บ้างไม่มากมายก็น้อย ถึงอย่างงั้น เขาก็ยังหนีไม่พ้นที่จะพบคำติเตียนจนได้

ตะวันฉายมั่นใจ แม้กระนั้นนักมวย หน้ามนจากจังหวัดชลบุรี กลับละเลยคำ ดูถูกแล้วก็คำตำหนิติเตียนพวกนี้ หากแม้เจ้าตัวจะสารภาพว่ารู้สึกแย่ กับคำติฉินต่างๆ ในระยะแรก แม้กระนั้น มานะทำความ เข้าใจผู้ที่วิจารณ์ แล้วก็หันมาให้ความเอาใจใส่กับการพัฒนา ตนเองมากยิ่งกว่า

สารภาพว่า ทางของเขาใน วัน แชมเปียนชิพ พึ่งจะเริ่มและ ก็ยังมีอีกหลาย สิ่งที่เขาจำต้อง ปรับนิสัยเพื่อเหมาะสมกับฐานแฟนๆ ที่ขยับจากในประเทศ ไปเป็นระดับประเทศ

โดยเจ้าตัวก้มรับ คำชี้แนะต่อ ให้คำติเตียน อย่างตั้งใจเปลี่ยนแปลง สไตล์การต่อย ให้มีความดุเดือด ออกอาวุธให้ร้ายแรง แล้วก็มีการป้องกันภัยที่ดี เพื่อเหมาะสม กับตลาดรวมทั้ง เอาอกเอาใจ แฟนหมัดมวย ทั้งยังไทย แล้วก็เทศที่ติดตาม วัน แชมเปียนชิพ

“จริงๆผมก็ ได้รับคำเสนอ แนะดีๆจากหลายข้างครับ ซึ่งผมก็ก้มรับ และก็จะนำไป ปรับแก้ เพื่อปรับปรุงความสามารถการต่อย ให้ดียิ่งขึ้นถัดไป ก็ขอขอบพระคุณ สำหรับทุกคำวิพากษ์วิจารณ์นะครับ อย่างไรผมก็ต้องการที่จะให้แฟนคลับติดตาม ผลงานถัดไปของผมใน วัน แชมเปียนชิพ ถัดไปเรื่อยครับ”

“ผมพบคำต่อว่า หลายแบบนะครับ ดูถูกเหยียดหยาม ผมแบบไม่สุภาพก็มี พวกสั้นเข้า มาก็เยอะแยะ ทีแรกๆผมก็รู้สึกโกรธผู้ที่เข้ามา ต่อว่าอย่างไม่มีเหตุผล แม้กระนั้นผมเลือก

ที่จะนิ่งแล้ว ก็พากเพียร ไม่สนใจขอรับ เพราะเหตุว่าคนกลุ่มนี้เป็นเพียง แต่ผู้ชมที่ มองดูเข้ามา มิได้รู้ละเอียด ในส่วนที่พวกเราอยู่นี้ เขาไม่ทราบว่า ผมฝึกซ้อมหนักมากแค่ไหน หรือทำอะไรบ้าง”