ยักษ์ชนยักษ์ ระเบิดความมันต้อนรับกุมภาพันธ์ กับการต่อสู้ของ 2 ยักษ์ใหญ่อันน่านับถือในรุ่นเฮฟวี่เวท หนแรกของปี 2021

ยักษ์ชนยักษ์ ในสังเวียนเดือด ลาส เวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่าง ” อลิสแตร์ โอเวอร์รีม นักสู้จอมน็อคเอาท์คนประเทศอังกฤษเชื้อสายชาวดัตช์ ปะทะ “Drago” อเล็กซานเดอร์ โวลคอฟ เพชรฆาตรุ่นน้องจากรัสเซีย ในวันอาทิตย์ที่ 7 เดือนกุมภาพันธ์นี้

ยักษ์ชนยักษ์

ผู้ครอบครองสถิติชนะ 47 แพ้ 18 นับว่าเป็นจอมน็อคเอาท์ประจำรุ่นเฮฟวีเวท โดยผลงานของ โอเวอร์รีม ใน 7 ไฟต์หลังสุด ไม่เคยจบลงแบบครบยกเลยแม้กระทั้งครั้งเดียว ฟอร์มระยะหลังนับว่ารุนแรง ชนะ 4 จาก 5 ไฟต์ แถมยังเป็นการชนะ TKO ด้วยหมัดล้วนๆปัจจุบันสยบ ออกุสโต ซากาอิ หลับชู 5 เมื่อก.ย.ปีที่ผ่านมา นอกจากนั้น โอเวอร์รีม ยังแพ้ซับมิทชันเพียงแต่ครั้งเดียวเพียงแค่นั้นสำหรับการต่อสู้บนสังเวียน 8 เหลี่ยม ดูมวยสดวันนี้

ขณะที่ “Drago” วัย 32 ปีมีสถิติ ชนะ 32 แพ้ 8 นับว่าเป็นนักสู้ที่มีวิธีการการปกป้องคุ้มครองตัวที่สุดยอด และก็มักเอาชีวิตรอดจากวิกฤตได้แบบไม่น่าเชื่อหลายคราว ผลงานช่วงหลังในปี 2020 แพ้แต้ม เคอร์ว่ากล่าวส เบลดส์ เมื่อมิถานายน ก่อนชนะ TKO วอล์ท แฮร์ริส ไปต.ค. โดยจากชัย 32 ครั้งเป็นการน็อคถึง 21 ครั้ง ซึ่งสถิติดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นก็บอกถึงพลังหมัดอันเอาจริงเอาจังของนักสู้ดินแดนหมีขาวรายนี้ได้อย่างดีเยี่ยมเหมือนกัน

เพราะฉะนั้นศึก ยักษ์ชนยักษ์ ต้อนรับเดือนที่ความรัก ที่นานทีจะมีให้มองเห็นในยุคนี้ ได้โอกาสสูงมากมายที่จะจบลงแบบไม่ครบชู ส่วนใครกันแน่จะถูกแบกลงสังเวียน ก็จำเป็นต้องติดตามแบบห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง

รองคู่เอกเป็นการดวลกันในพิกัดรุ่น แบนตัมเวท ระบุ 3 ชู ระหว่าง คอรี ซานด์ฮาเกน จอมดีเดือดคนอเมริกัน ผู้ไม่เคยพ่ายแพ้น็อกให้กับคนไหนกันเจอกับ แฟรงกี เอ็ดการ์ จอมเก๋าเพื่อนร่วมชาติที่ไม่เคยถูกซึมซับไม่ทชัน

สำหรับผู้แทนนักสู้เพียงอย่างเดียวจากทวีปเอเชียที่จะโชว์ความสามารถ ก็คือ ชอย ซึง วู นักสู้จากประเทศเกาหลีใต้ ที่จะขึ้นชกในรุ่นเฟเธอร์เวทดวลกับ ปีศาจจากโมร็อกโก ยูสเซฟ ซาลาล ตัวอันตรายที่ไม่เคยแพ้แบบไม่ครบชูตลอดการต่อสู้ 10 ไฟต์ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา

คู่เอกเป็นการเจอกันของสองจอมน็อกเอาท์ที่รุ่นเฮฟวีเวต อลิสแตร์ โอศัตรูม สมัยก่อนผู้ท้าแข่งแชมป์และก็ชั้น 6 ของรุ่น ผู้ครอบครองสถิติชนะน็อก 24 ไฟต์ ที่เคยน็อกสมัยก่อนแชมป์โลกอย่าง จูเนียร์ ดอส ซานโตส มาแล้ว จะดวลกับ ออกุสโต ซาไก มวยแซมบ้าผู้ครอบครองสถิติไม่มีปราชัยใน UFC ชนะน็อก 11 ครั้ง และก็คว้าชัยมา 6 ไฟต์ติด เดี๋ยวนี้รั้งชั้น 9 ของรุ่นเฮฟวีเวต เดิมพันเข็มขัด

ยักษ์ชนยักษ์

ในตอนที่คู่รอง โอวินซ์ เซนต์ พรู จอมซับมิชชันที่ปราบคู่แข่งได้ตั้งแต่ยกแรกถึง 14 ไฟต์ รวมทั้งครอบครองสถิติชนะซับมิชชันด้วยท่า Von Flue Choke มากมายสุดในประวัติศาสตร์ UFC (4 ครั้ง) จะทำศึกสงครามไลต์เฮฟวีเวตกับ อลอนโซ เมนิฟิลด์ หนึ่งในจอมน็อกเอาท์ของรุ่น ผู้ครอบครองสถิติชนะน็อก 8 ครั้ง จาก 10 ไฟต์ และก็ยังไม่เคยถูกดูดซับไม่ชชันแม้กระทั้งครั้งเดียวบนเวทีที่นี้

การประลอง UFC Night Night: Overeem vs Sakai เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 เดือนกันยายน 2020ในสังเวียน UFC APEX ลาสเวกัสคู่เอกละครมาเจอกันของอลิสแตร์โอศัตรูมยุยงผู้ท้าแข่งและก็ชั้น 6 ของรุ่นเฮฟวีเวตแล้วก็ออกุกุ สโตซากัตอันดับ 9 ของรุ่น

ชูทั้งคู่คนยังคงดูเชิงกันอยู่ก่อนที่จะซากะจะยกเครื่องลำดับที่สองโดยวางอาวุธใส่อย่างมากถ่วงเมื่อใดโอเวมยังรอดมาได้แล้วก็แก้เกมเมื่อเป็นข้าง เหนือกว่าในชูสามรวมทั้งสี่จากการเทคแช็คและก็พูดคุยใส่แบบไม่ให้ทำความสะอาดซาขรึมจะต่อสู้การต่อสู้มาถึงยกที่ห้า แม้กระนั้นถูกเทคดาวน์และก็โดนเจาะหน้าเต็มๆจนถึงจะต้องเตือนการต่อย แล้วก็ยกมือให้โอเวรีมเป็นผู้ชนะในไฟต์นี้

อลิสแตร์โอศัตรูข้างหลังจบการแข่งขันว่า“ ตอนต้นผมมีความรู้สึกว่าจะจักจี้อกเขาได้สองหรือสามชูรวมทั้งมันก็ยื้อมาถึงชูที่ห้าจนได้ แม้กระนั้นยอเป็น UFC นักสู้ทุกคน ขั้นตอนรวมทั้งขั้นตอนสำหรับในการซ้อมและก็ฝึกหัดในไฟต์นี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบกลุ่มของผมดีเยี่ยมที่สุดมากมายๆ”

ด้านรองคู่เอกจะขึ้นแท่นรางเป็นจอมซับมิ ชชัน แต่ว่าโอวินซ์ บริษัท พรูก็สร้างด้วยการคิกอิกโซเมนินหนึ่งในนักสู้ฝึกหัดของรุ่นไลต์เฮฟวีเวตโดยบอยพรูเกมมาตั้งแต่ยกแรกก่อนที่จะบินด้วย หมัดดกแกว่งไกวในตอนต้นชูที่สอง

ส่วนอีกคู่ที่น่าสนใจในรุ่นเฟเธอร์เวตไบรอันเคลเลอร์ที่จำต้องเปลี่ยนแปลงคู่ต่อยฉับพลันจากเควินที่นาทิวิสเป็นเรย์โร ดริเกซ แม้กระนั้นยังทำผลงานได้เยี่ยมโดยใช้เวลาเพียงแค่ 39 ซับมิชชันด้วยท่า Guillotine Choke

การประลอง เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 ก.ย. 2020ในสังเวียน UFC APEX ลาส เวกัส คู่เอกเป็นการโคจรมาเจอกันของ อลิสแตร์ โอเวรีม อดีตกาลผู้ท้าแข่งแชมป์แล้วก็ชั้น 6 ของรุ่นเฮฟวีเวต รวมทั้ง ออกุสโต ซาไก ชั้น 9 ของรุ่น

ยกแรกทั้งคู่คนยังคงดูเชิงกันอยู่ ก่อนที่จะ ซาไก จะเร่งเครื่องในชูลำดับที่สอง โดยไล่ออกอาวุธใส่คู่แข่งอย่างหนักหน่วง อย่างไรก็ดี โอคู่อริม ยังรอดมาได้และก็แก้เกมเสร็จ เมื่อเป็นข้างเหนือกว่าในชูสามแล้วก็สี่ จากการเทคดาวน์และก็ซ้ำๆหมัดใส่แบบไม่ยั้ง ถึงแม้ ซาไก จะยืดการต่อสู้มาถึงยกที่ห้า แม้กระนั้นก็ถูกเทคดาวน์แล้วก็โดนหมัดอัดหน้าเต็มๆกระทั่งผู้ตัดสินจำต้องเลิกการต่อย แล้วก็ยกมือให้ โอปรปักษ์ม เป็นผู้ชนะในไฟต์นี้

อลิสแตร์ โอข้าศึกม กล่าวข้างหลังจบการประลองว่า “ทีแรกๆผมรู้สึกว่าจะน็อกเขาได้ด้านในสองหรือสามยก แล้วก็มันก็ยืดยื้อมาถึงชูที่ห้าจนได้ แต่ว่านี่แหละเป็น UFC นักสู้ทุกคนเข้มแข็งรวมทั้งตระเตรียมแนวทางต่อยมาอย่างดี ในที่สุด ผมจะต้องขอบคุณผู้ฝึกสอนทุกคนจริงๆที่รอชี้นำแล้วก็ปรับแผนการในไฟต์นี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ กลุ่มของผมยอดเยี่ยมมากๆ”

ด้านรองคู่เอก แม้ว่าจะขึ้นชื่อว่าเป็นจอมซับมิชชัน แต่ว่า โอวินซ์ เซนต์ พรู ก็สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการน็อก อลอนโซ เมนิฟิลด์ หนึ่งในนักสู้ผู้ทรงพลังของรุ่นไลต์เฮฟวีเวต โดย เซนต์ พรู คุมเกมมาตั้งแต่ชูแรก ก่อนที่จะปราบด้วยหมัดฮุกซ้ายในช่วงต้นชูที่สอง

ส่วนอีกคู่ที่น่าดึงดูดในรุ่นเฟเธอร์เวต ไบรอัน เคลเลเออร์ ที่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงคู่ต่อยกระทันหัน จาก เควิน นาทิวิดาด เป็น เรย์ โรดริเกซ แต่ว่ายังทำผลงานได้เยี่ยมยอด โดยใช้เวลาเพียงแต่ 39 วินาที ซับมิชชันคู่แข่ง