เดชดำรงค์ประกาศ สมัยก่อนแชมป์โลกระดับตำนาน “เดชดำรงค์ ส.อำนวยศิริโชค” เห็นด้วยแพ้สภาพร่างกายตัวเอง

เดชดำรงค์ประกาศ ถึงแม้หัวใจจะบอกให้สู้ แต่ว่าฝืนสังขารไม่ไหว ตกลงใจประกาศวางมือเลิกหน้าที่นักสู้ในวัย 43 ปี ข้างหลังพ่ายแพ้น็อกนักสู้ชายหนุ่มลูกครึ่งไทย-ออสซี่ “แดเนียล วิลเลียมส์” วัย 28 ปี

อำนาจดำรงค์ นักสู้รุ่นพ่อ คืนสังเวียนพร้อมความขมักเขม้นเพื่อคว้าชัยแล้วก็ขึ้นท้าทายชิงบัลลังก์รุ่นสตรอว์เวตที่ตนเคยครอบครองอีกสักหนึ่งครั้งในชีวิต แต่ว่าความตั้งอกตั้งใจก็มีอันจะต้องเลิกล้ม ดูมวยสดวันนี้

เดชดำรงค์ประกาศ

เมื่อพลาดถูกคู่ต่อสู้ชายหนุ่มซัดหมัดชนตับจนหล่นลงไปกองกับพื้นในยกสองของการแข่งขันชิงชัย เป็นข้างแพ้ไป โดยข้างหลังจบศึกเจ้าตัวก็ออกมาประกาศว่าไฟต์นี้เป็นไฟต์สุดท้ายบนสังเวียน ONE โดยเปิดใจว่า

“เห็นได้ชัดว่าที่ผมแพ้เป็นสภาพร่างกายครับผม เรื่องความสามารถทั้งยังเกมยืนเกมนอน ผมไม่กลัวอยู่แล้ว แม้กระนั้นในวัยนี้ ระบบการฟื้นตัวจะช้า แตกต่างจากคราวก่อน หากยุคผมชายหนุ่มๆถ้าเกิดโดนลูกนี้ไม่มีสะทกท้าทายนอยู่แล้ว ผมก็เลยมานั่งมีความรู้สึกว่า พวกเราคงจะฝ่าฝืนร่างกายไปไม่ไหวแล้ว จำต้องยอมรับความจริง ก็เลยประกาศแขวนนวมเลยครับผม”

เดชดำรงค์ นับว่าเป็นเจ้าตำนานมวยไทย ดีกรีแชมป์ มวยไทยเวทีลุมพินี 3 รุ่น พร้อมประสบการณ์การต่อยกว่า 350 ไฟต์ และก็ยังเป็นชาวคนไทยแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้ขึ้นนั่งแท่นแชมป์โลก ONE ในกีฬาการต่อสู้แบบผสม ซึ่งยังไม่มีผู้ใดลบหน้าประวัติศาสตร์นี้ได้จนถึงตอนนี้

นับตั้งแต่ก้าวสู่ทางนักสู้อาชีพตั้งแต่เขาอายุได้ 12 ปี จนกระทั่งวันนี้ บารมีดำรงค์ ได้โลดแล่นอยู่บนสังเวียนการต่อสู้ตรงเวลากว่า 30 ปี

และก็ได้สร้างตำนานอันยิ่งใหญ่ซึ่งน้อยคนนักจะทำเป็น ซึ่งเขานับว่าเป็นความภาคภูมิสูงสุดในชีวิต “ผมรู้สึกภูมิใจในอาชีพนักสู้ กว่าจะผมจะมาถึงวันนี้ ผมสู้มาตลอดจนได้เป็นทั้งยังแชมป์มวยไทยรวมทั้งแชมป์ MMA แต่ว่าสิ่งที่ผมภูมิใจสูงที่สุดเป็นวิธีการทำให้คนประเทศไทยได้ทราบจะ MMA เพิ่มมากขึ้น

และก็เปิดใจเห็นด้วยว่ากีฬา MMA มิได้จะเข้ามาทำลายมวยไทย แม้กระนั้นเป็นกีฬาที่ผลักดันให้นักมวยไทยได้ได้โอกาส หรือลู่ทางในอาชีพเข้ามาอีกทางหนึ่ง” เขย่าวงการมวยอังกฤษ

เดชดำรงค์ประกาศ

แม้ว่าจะจบหน้าที่ในฐานะนักสู้ แม้กระนั้น เดโชดำรงค์ ยังคงจะปฏิบัติภารกิจคุณครูมวยที่ยิมอีโอ้อวดลฟ์ ประเทศสิงคโปร์ ถัดไปเพื่อสืบต่อประณิธานสำหรับเพื่อการเผยแพร่ศิลป์มวยไทยให้แก่ศิษย์ทั้งยังคนประเทศไทยและก็เทศ เพื่อสร้างนักมวยไทยแบบใหม่ที่รู้จักและก็รู้เรื่องศาสตร์มวยไทยอย่างแท้จริง

“บารมีดำรงค์ ส.อวยศรีโชค” อดีตกาลแชมป์โลก ONE รุ่นสตรอคอยว์เวต ลั่นถึงจะอายุอานามล่วงเลยถึงเลขหลัก 4 แต่ว่าร่างกายยังดีเต็มเปี่ยม พร้อมสอนมวยชายหนุ่มลูกครึ่งไทย-ออสซี “แดเนียล วิลเลียมส์” ที่อายุอ่อนกว่าถึง 15 ปี

นักสู้ระดับตำนานวัย 43 ปี ได้เวลาลงสังเวียนการต่อสู้แบบการประสมประสาน (MMA) อีกรอบข้างหลัง นักสู้ชายหนุ่มจากดินแดนเส้าหลินที่อายุอ่อนกว่าถึง 18 ปี มาได้ประเภทหักปากกาเซียนเป็นแถวเป็นแนวในไฟต์ปัจจุบัน เมื่อสิงหาคม 2564 ซึ่งเป็นการลบคำดูถูกจากนักวิพากษ์วิจารณ์บางกรุ๊ป ที่เห็นว่าเขา “แก่เกินแกง” https://www.fudoshinkan.org

ในคราวนี้ นักสู้รุ่นพ่อจะได้เจอหน้ากับ “แดเนียล วิลเลียมส์” นักสู้หัวใจแข็งที่เคยประมือกับแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต “รถถัง จิตรเมืองความสนุก” อย่างถึงลูกถึงคนจำพวกไม่เกรงบารมีแชมป์จนได้ดวงใจแฟนมวยคนไทยไปเต็มๆซึ่ง เดชดำรงค์ เองก็ถึงขนาดพูดดูในหัวจิตหัวใจนักสู้ของนักมวยชายหนุ่มคนนี้ด้วยเหมือนกัน

แม้ว่าจะจำต้องสู้กับคู่ปรับที่อีกทั้งสดแล้วก็จิตใจสู้อย่างงี้ เดชะดำรงค์ ก็ยังเชื่อมั่นตนว่ายังเข้มแข็งเพียงพอ แล้วก็ยังเชื่อถือในความเก๋า ทั้งยังในศาสตร์มวยไทย และก็การต่อสู้แบบประสมประสานของตนเองด้วย เหนือสิ่งอื่นใด เขายังมีจิตวิญญาณ ของนักสู้เต็มเปี่ยม ซึ่งเป็นพลังขับสำคัญ ที่จะทำให้เขาคว้าแชมป์ได้อีกที

“ผมเห็นด้วยว่าผมแก่แล้ว ผมทราบว่าถ้าเกิดร่างกายไม่ไหว ผมก็จำต้องหยุด แต่ว่าผมก็มีการประเมินสภาพร่างกายของตนเองตลอดรวมทั้งจัดแจงทำร่างกายให้พร้อมอยู่เป็นประจำ ปัจจุบันนี้ กล่าวได้เลยว่าผมยังมีจิตวิญญาณนักสู้อยู่สุดกำลัง ผมพร้อมจะสู้กับผู้ใดก็ได้เพื่อไปถึงแม้ว่าจะถึงวัตถุประสงค์สำหรับเพื่อการชิงชนะเลิศโลกอีกทีนะครับ”

หากแม้ในเวลานี้สมัยก่อนแชมป์โลก ONE รุ่นสตคอยว์เวต วัย 42 ปี ควรต้องจากรกรากไปปฏิบัติงานเป็นคุณครูมวยที่ค่ายอีโม้ลฟ์ ที่ประเทศสิงคโปร์ ก็ยังไม่ลืมเลือนที่จะรอส่งอีกทั้งกำลังเงินและก็แรงใจช่วยเหลือผู้ไม่ค่อยได้รับโอกาศอย่างสม่ำเสมอ โดยยิ่งไปกว่านั้นในตอนเหตุการณ์วัววิดที่ทำให้เกิดผลเสียไปทุกแห่งทุกหน

ปัจจุบัน เจ้าตัวได้ส่งเงิน ช่วยเหลือค่าอาหารกลางวัน รวมทั้งข้าวสารเครื่อง ใช้ในครอบครัว ให้แก่มูลนิธิ “โรงเรียนเพื่อชีวิตจังหวัดเชียงใหม่” จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นมูลนิธิขนาดเล็กที่รับสอนหนังสือให้แก่กำพร้า เด็กด้อยโอกาส และเด็กชาวเขาที่เข้าไม่ถึงการเรียนรู้ในระบบ

เดชดำรงค์ เห็นว่าการเล่าเรียน เป็นสิ่งจำเป็น สำหรับในการปรับปรุง เด็กแล้วก็เยาวชน เขาก็เลยตกลงใจส่งเสริม มูลนิธินี้ อย่างสม่ำเสมอ โดยเขาเล่าว่า “หลังจากที่ผมได้ ครองแชมป์โลก MMA เมื่อปี 2558 จังหวะที่กลับท่องเที่ยวบ้านเมียที่จังหวัดลำพูน

พอดิบพอดีได้รู้จะกับเพื่อนพ้องของเมีย ชื่อ “ครูต้อม” เป็นคุณครูต่างจังหวัด สอนหนังสือให้เด็กชาวเขา เด็กกำพร้า ด้อยโอกาส ที่มูลนิธินี้ ซึ่งมีน้องๆในวัยศึกษาตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงชั้นประถมปริมาณร้อยกว่าคนยังอยากได้ความให้การช่วยเหลืออีกมากมาย ผมก็เลยตั้งอกตั้งใจจะช่วยเหลือไปตลอด”

“ยุคเด็กๆตัว ผมเองก็เคยลำบาก การได้ช่วยเหลือผู้อื่น เป็นการหยิบ ยื่นช่องทางให้เขา ผมส่งเงินสมทบมาปีละ 2-3 ครั้ง บ่อยๆทุกปี

ครั้งคราวก็ชวน ครูมวยรวมทั้ง เชื้อเชิญลูกศิษย์ลูกหา ไปร่วมทำบุญ ทำกุศลร่วมกัน แต่ว่าช่วงนี้โควิดระบาด ไม่สามารถเดินทาง มาด้วยตัวเอง ได้แต่สอบถามครูต้อม แล้วโอนเงินส่งเสริม ไปให้สิ่งเดียวขอรับ”