เหตุใดกังฟู  กำแพงของเชื้อชาติและก็วัฒนธรรมนั้นสูงรวมทั้งกล้าแกร่ง

เหตุใดกังฟู โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวต่างประเทศที่เชื่อถือว่าพวกเขาเป็นความเจริญของโลก ยิ่งเกิดเรื่องยากที่เขาจะเปิดรับวัฒนธรรมอื่นๆเข้ามาในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะ วัฒนธรรมของชาวเอเชีย

แต่ มีสิ่งหนึ่งที่มีต้นกำเนิดจากทวีปเอเชีย แต่ว่าสามารถตีกำแพงวัฒนธรรมของโลกตะวันตกได้แตกกระจาย โน่นเป็น “กังฟู”

กังฟู อยู่คู่กับประวัติศาสตร์จีนมาอย่างช้านาน ที่มาไม่ค่อยตรงกันนัก บางที่ก็กล่าวว่าเริ่มขึ้นตั้งแต่กว่า 1 ล้านปีกลาย เพื่อใช้เพื่อสำหรับการล่าสัตว์ บ้างก็พูดว่าเกิดจากการฝึกหัดที่วัดเส้าหลิน และก็บางที่บางตอนก็พูดว่า

กังฟูประจักษ์ๆแบบมีหลักฐานเป็นตอน 400 ปีกลายคริสตกาล รวมทั้งใช้เพื่อฝึกหัดทหารในกองทัพ ด้วยเหตุนั้นเรื่องความแจ่มกระจ่างแบบ 100% คงจะตอบมิได้กระจ่างแจ้ง แต่ว่าที่แน่นอนสรุปว่า นี่เป็นศิลป์ประจำชาติของคนจีน ก็ถือได้ว่าอันรู้กัน ดูมวยสดวันนี้

ไม่ว่าจะกำเนิดและก็ถูกปรับปรุงในสมัยวงศ์สกุลไหนไม่มีความจำเป็น แม้กระนั้นสาระสำคัญที่จริงจริงของ กังฟู มีความหมายว่า “ศิลป์การต่อสู้แบบจีนที่ไม่มีอาวุธ” ท่วงทีการออกอาวุธหรือตั้งการ์ดนั้น มีเป้าหมายเพื่อเป็นแบบฝึกหัด เสริมร่างกายรวมทั้งเส้นเอ็นให้แข็งแรง นอกเหนือจากนั้นยังมีการฝึกฝนสมาธิเพื่อสามารถควบคุมร่างกายได้อย่างมีคุณภาพที่สุด

เหตุใดกังฟู

สิ่งที่เด่นของ กังฟู ถ้าหากเทียบกับศิลป์การต่อสู้อื่นๆทั้งโลก รวมทั้งของตะวันตก อย่าง มวยปล้ำ และก็ มวยสากล เป็นเรื่องของ “ท่าทาง” … กังฟู มีลีลาท่าทางกระบวนท่าที่สวย รวมทั้งที่สำคัญมีหลายท่า

โดยมีที่มาจากอิริยาบถเฉพาะชนเผ่าในประเทศจีนเมื่อโบราณที่ตกทอดส่งต่อกันมา นอกเหนือจากนี้ยังมีการเอาอย่างกระบวนท่าจากสัตว์หลายประเภท ซึ่งถ้าเกิดผู้ใดเคยมองการ์ตูนหรือภาพยนตร์เกี่ยวกับการต่อสู้ ก็อาจเคยได้ฟังท่าต่อสู้ต่างๆอย่าง หมัดตั๊กแตน, หมัดพยัคฆิน, หมัดมังกร หรือะไรก็ว่ากันไป ดูกันชัดๆยกไหน

เหตุใดกังฟู

ท่าทางการออกหมัด รวมทั้งหลบของ กังฟู นั้นพริ้วไหวรวมทั้งเร็วทันใจ มีแนวทางยืดดูถูกแบบครบวงจร ยกขาฉีกมากถึงหัว กระโจนหมุนเตะ รวมทั้งการเปลี่ยนกระบวนท่าด้านในเสี้ยววินาที ถ้าเปรียบเทียบกับมวย ก็ราวความเคลื่อนไหวแท็คติกในทุกๆยก รวมทั้งเปลี่ยนแปลงแนวทาง เปลี่ยนแปลงกระบวนท่าที่จะใช้จัดการกับคู่ปรับที่ต่างกัน

“อย่าระบุตนเองให้คงที่ ปลดปล่อยมันไหลราวกับสายน้ำ ทำจิตใจให้ว่างเปล่า ไม่มีรูปร่างราวน้ำ เมื่อคุณใส่น้ำในถ้วย มันจะเปลี่ยนเป็นถ้วย แล้วก็ถ้าเกิดคุณใส่มันในขวดน้ำ ก็จะเปลี่ยนเป็นทรงของขวด เพียงพอถึงในตอนนี้แล้ว น้ำนั้นสามารถไหลได้ แล้วก็สามารถสร้างแรงกระทบได้ด้วย ต้องเป็นดั่งน้ำ เพื่อนเอ๋ย” บรูซ ลี ว่าไว้

จริงอยู่ที่อาการการต่อสู้ในแบบของกังฟูมันมองสวย รวดเร็ว แล้วก็พริ้วไหว แต่ว่าสำหรับชาวตะวันตกในเมื่อหลายสิบปีกลาย พวกเขามิได้นิยมอะไรอย่างนั้น ที่อเมริกา มวยสากล ชนะใจผู้ที่รักศิลป์การต่อสู้มาตั้งแต่ปี 1920 เรื่อยๆมาจนถึงมีวัฒนาการไปไกล มียอดนักมวยที่เก่งขึ้นรวมทั้งเฟอร์เฟกต์ขึ้นเรื่อย

กีฬาชกมวยที่เมื่อก่อนมีแต่ว่าเดินแลกหมัดว่ายเข้าพบกัน แต่ว่าเมื่อทุกๆสิ่งทุกๆอย่างปรับปรุงไปด้านหน้า มีรายได้เข้ามาจากผู้ชมในสนามและก็การถ่ายทอดสด เมื่อนั้นมวยก็เป็นอะไรที่ตอบปัญหารวมทั้งเป็นกีฬาชั้น 1 ในสหรัฐอเมริกา สิ่งนี้พอเพียงจะพูดได้ว่าพวกชาวอเมริกันหรือคนตะวันตกอื่นๆ

พอใจศิลป์การต่อสู้ที่เอาจริงเอาจังและก็แข็งแรงมากยิ่งกว่า ไม่เช่นนั้นนักต่อยอย่าง ยกการ์ เรย์ โรบินสัน, ฟลอยด์ แพทเทอร์สัน และก็ มูฮัมหมัด อาลี คงจะไม่มีเงินมีทองล้นฟ้าแม้ว่าจะมาจากครอบครัวยากไร้แน่ๆ

นักมวยพวกนี้มีค่าตัวเป็นสิบล้านตั้งแต่ที่ตั๋วเข้าชมยังราคาเพียงแค่หน่วยหลักสิบ รายได้ของนักมวยเป็นภาพสะท้อนของความนิยมชมชอบอย่างแท้จริง และก็มวยยังคงเป็นศิลป์การต่อสู้อันดับหนึ่งของโลกในด้านของเงินรางวัลแล้วก็ความแมสอย่างแท้จริง

ปริศนาเป็น แล้ว กังฟู เข้ามาอยู่ร่วมกับสังคมตะวันตกได้ในตอนไหน ? ในเมื่อระยะเวลาหลายปีก่อนชาวตะวันตกมองศิลป์การต่อสู้อย่างมวยเป็นหลัก และก็ว่าตามตรงเป็น ถึงแม้ประวัติศาสตร์ของกังฟูจะช้านานเป็นล้านปีดังที่แบบเรียนหลายรายบอก แต่ว่าปลายทางเป็นไม่เคยมีนักกังฟูคนไหนกันแน่พิสูจน์ให้โลกทราบได้สักครั้งว่า กังฟู นั้นเป็นศาสตร์ที่เข้มแข็งรวมทั้งใช้ได้จริง

อย่าลืมว่าในสมัยๆข้างหลังมีศิลป์การต่อสู้อย่าง MMA (ศิลป์การต่อสู้แบบผสม) ที่เปิดกว้างให้นักสู้จากทุกกิ่งก้านสาขาขึ้นเวทีเพื่อชิงความเป็นเลิศ … MMA ให้โอกาสทุกศาสตร์การต่อสู้มือเปล่าทุกกิ่งก้านสาขาได้ใช้อาวุธของตนเองอย่างเต็มที่ แต่ว่าที่สุดแล้วไม่เคยมีนักกังฟูหรือมวยจีนผู้ใดกันแน่สร้างชื่อสำหรับเพื่อการต่อสู้ระดับนี้ได้เลย

หนักที่สุดเป็นในตอนไม่กี่ปีให้หลัง ต่อให้นักสู้ MMA คนจีนเองที่ชื่อว่า สวี เพื่อนตง ยังเริ่มเดินทางไปคว่ำสำนักกังฟูจากที่ต่างๆทั้งประเทศ เพื่อพิสูจน์ว่า กังฟู เป็นศาสตร์ที่หลอกลวง ซึ่ง สวี เกลอตง ก็ไล่เก็บได้หมด จนกระทั่งขั้นที่ว่าฝั่งกังฟูจำเป็นต้องชูเอา อี้ หลง ที่นับว่าเป็นเบอร์ 1 ของสายกังฟู มาเพื่อหยุดพฤติกรรมของ สวี เกลอตง

ที่สุดแล้วเมื่อถึงเวลา อี้ หลง ก็หนีไฟต์แล้วก็กล่าวถึงว่ามีลักษณะอาการเจ็บ ไฟต์ระหว่าง MMA ปะทะ กังฟู เลยไม่เคยเกิดขึ้น และยังรวมไปถึงไฟต์ระหว่าง อี้ หลง กับยอดมวยไทยอย่าง บัวขาว บัญชาเมฆ ที่เคยออกข่าวสารว่า จะสู้กันในศึก MAS Fight ชูเดียว 9 นาที ก็ไม่เคยเกิดขึ้นจริงด้วยเหมือนกัน

แม้กระทั้งชาวเอเชีย หรือคนจีนร่วมกันเอง ยังให้ความข้องใจและไม่มั่นใจว่า กังฟู กล้าแกร่ง แล้วฝรั่งเห็นด้วยศิลป์การต่อสู้อย่าง กังฟู ได้อย่างไรกัน ?

คำตอบที่ง่ายที่สุด ที่พวกเราเพียงพอจะกล่าวได้ว่าฝรั่งถูกใจกังฟูนั้น ขึ้นกับการตีความหมาย … อย่างที่กล่าวไปทั้งหมดทั้งปวง ในด้านของการยินยอมรับความแข็งแกร่งในหมู่ศิลป์การต่อสู้ กังฟู บางทีก็อาจจะมิได้มีหลักฐานพิสูจน์ความแข็งแกร่งอะไรหากเทียบกับศิลป์การต่อสู้อื่นๆ

ไม่มีอะไรเป็นหลักฐานแจ่มแจ้งว่า นักกังฟูสามารถใช้วิชาหมัดตั๊กแตน หรือหมัดพยัคฆินทร์คว่ำนักมวยระดับแถวหน้าได้ แต่ว่าสิ่งที่ทำให้ กังฟู แมสในระดับตะวันตกรวมทั้งเป็นที่นิยมไปทั่วทั้งโลก อาจเกิดขึ้นเนื่องจากว่า “พวกเขาแปลความมันในทางความรื่นเริงใจมากยิ่งกว่า”

เรื่องราวความชื่นชอบไปทั่วทั้งโลก แล้วก็ทำให้เกิดอาการชาวตะวันตกรู้จักศาสตร์การต่อสู้แบบจีน เริ่มขึ้นอย่างแจ่มแจ้งเยอะที่สุดเห็นจะเป็นตอนสมัย 70s สมัยนั้นจะต้องขอบคุณมากอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของประเทศฮ่องกงยอดนิยมเป็นอย่างมาก พวกเขาสร้างหนังออกมาหลายต่อหลายเรื่อง

รวมทั้งโดยมากเป็นหนังบู๊ที่เข้าใจง่ายที่สุด มองได้ทุกเพศทุกวัย ผู้แสดงนำชายใช้ศิลป์การต่อสู้ปราบผู้ร้ายเพื่อแผนการที่ยิ่งใหญ่ เส้นเรื่องที่ทายใจตอนสุดท้ายได้ง่าย แต่ว่าความมันที่จริงจริงเกิดขึ้นจากการต่อสู้กลางทาง ซึ่งแน่ๆว่าหนังประเทศฮ่องกงนั้นยกเรื่อง “กังฟู” มาเป็นชั้น 1

แต่ก่อนหนังประเทศฮ่องกงนั้น เน้นย้ำเอาวรรณกรรมของ โกวเล้ง รวมทั้ง กิมย้ง มาดัดแปลง อาทิเช่น มังกรหชู หลายๆภาคที่เขย่าแวดวงหนัง สร้างความนิยมชมชอบให้กับคนจีนที่อาศัยอยู่ในเมืองนอก

รวมทั้งแผ่นดินอเมริกาอย่างใหญ่โต ความชื่นชอบทั้งผองเริ่มจากนั่น จากจอมยุทธ์ มาถึงสมัยที่จำเป็นต้องสร้างภาพยนตร์บู๊ร่วมยุค เมื่อนั้นหนังที่แสดงนำโดย บรูซ ลี ก็เริ่มถูกทำขึ้น

บรูซ ลี นับว่าเป็นลูกเสี้ยวประเทศฮ่องกง-ยุโรป (เชื้อสายยุโรปมาจากทางม่าม้า) แต่ว่าได้ชนชาติอเมริกันเนื่องจากกำเนิดที่อเมริกา ตัวของ บรูซ ลี นั้นมีพื้นฐานการเป็นกังฟู ด้วยเหตุว่าได้เล่าเรียนศิลป์การต่อสู้อย่าง หย่งชุน จากคุณครูของเขาที่ชื่อว่า ยิปมัน

ด้วยเหตุผลดังกล่าวหนังที่ บรูซ ลี แสดง จะต้องใช้กังฟูเป็นศิลป์การต่อสู้เดินเรื่อง และก็หนังยอดนิยมที่สุดของเขามีชื่อเรื่องว่า “The Big Boss” หรือมีชื่อไทยว่า “พ่อหนุ่มสินตึ๊ง” และก็ชื่อในอเมริกาว่า “Fists of Fury”

แรกเริ่มหนังที่ส่งเข้าไปฉายในอเมริกานั้น มิได้มีเป้าหมายสำหรับในการทะลวงทะลาย บ็อกซ์ สถานที่ทำงาน แข่งขันกับหนังระดับฮอลลีวูดอะไร เพีงแม้กระนั้นเป็นการส่งหนังเข้าไปฉายเอาอกเอาใจชาวจีนในต่างถิ่น

และก็หวังเปิดตลาดจากต่างแดนดูบ้างเพียงแค่นั้น ด้วยเหตุดังกล่าวในระยะแรกๆจะพูดว่ากังฟูแมสในอเมริกาในทันทีก็เลยผิดนัก เนื่องจากว่าจุดกำเนิดนั้นใช้เวลาพอควร กว่าที่ทุกคนในประเทศสหรัฐอเมริกาหรือทั้งโลกจะรู้จัก บรูซ ลี

The Guardian สำนักข่าวเจาะระดับต้นๆของโลก การันตีว่าความนิยมของ กังฟู ที่หลบอยู่ในรูปภาพยนตร์ สำหรับฝรั่ง เริ่มขึ้นจากโรงภาพยนต์เล็กๆที่ตั้งอยู่บนนถนนหนทางสาย 42 ของนิวยอร์ก ชื่อว่า ไกรนด์เฮาส์ สิเนม่า (Grindhouse Cinemas) ถ้าหากจะชี้แจงให้เห็นภาพ นี่เป็นโรงภาพยนต์ของชนชั้นกรรมกร ที่มีรายได้น้อย ค่าตั๋วราคาไม่แพง ไม่ค่อยมีหนังระดับ บ็อกซ์ ที่ทำงาน เข้ามาฉายนัก

ด้วยเหตุนั้น “Fists of Fury” รวมทั้งหนังกังฟูจากประเทศฮ่องกงรวมทั้ง บรูซ ลี เรื่องอื่นๆก็เลยถูกเอามาฉายตรงนี้ในขั้นแรก ซึ่งด้านในโรงภาพยนต์มีแม้กระนั้นคนดำ รวมทั้งชาวเอเชียที่เข้ามามอง ด้วยเหตุว่าคนกลุ่มนี้ไม่มีจังหวะจะได้ไปนั่งดูหนังดีๆในโรงภาพยนต์หรูหราอย่างกับคนขาวเท่าไรนัก

เมื่อหนังกังฟูถูกฉายในโรงภาพยนต์ของชนชั้นกรรมกร กระแสที่นิยม รวมทั้งการพบ “ประสบการณ์ร่วม” ของคนดำและก็ชาวเอเชียก็เลยมาเจอะกัน เพราะเหตุว่าหนัง กังฟู โดยมากนั้น ตัวร้ายชอบเป็นฝรั่งผิวขาว

เรื่องราวก็จะทำนองว่ากลุ่มของผู้คนทวีปเอเชียโดนคนผิวขาวข่มเหง ซึ่งโน่นเป็นความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา แล้วก็แน่ๆว่าเหล่าคนดำก็รู้เรื่องรู้ราวหมายของการต่อสู้นี้อย่างดีเยี่ยม … มีหนังไม่กี่เรื่องในสมัยนั้นที่ดารานำชายและก็นางเอกไม่ใช่คนผิวขาว ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็น หนังกังฟู

แปลงเป็นว่าคนดำชอบใจหนังกังฟูอย่างใหญ่โต เพราะว่านอกเหนือจากคนผิวขาวจะโดนอัดคว่ำแล้ว พวกเขายังได้มองการต่อสู้แบบกังฟูที่พริ้วไหว ไม่เหมือนกับหนังบู๊ชนชาติอเมริกันแบบทั้งหมด หัวข้อนี้การันตีได้จากหนังกังฟูในพักหลังแล้วต่อจากนั้น มีนักแสดงผิวดำ

รวมทั้งนักกีฬาผิวดำสุดยอดอย่าง ค้างรีม อับดุล จาบาร์ ที่เคยเล่นหนังร่วมกับ บรูซ ลี ในเรื่อง Game of Death มาแล้ว ยิ่งไปกว่านี้ยังมีเพลงที่ชื่อ Kung Fu Fighting ของนักร้องผิวดำอย่าง คาร์ล ดั๊กลาส ยอดนิยมจำพวกที่ว่าผู้ใดกันแน่ฟังก็จำต้องร้องอ้อ ไหนจะกรุ๊ปฮิปฮอปอเมริกันอปิ้ง Wu Tang Clan ก็ได้อิทธิพลสำหรับเพื่อการตั้งชื่อกลุ่มมาจากหนังกังฟูเหมือนกัน