แรงดลใจ กาลครั้งหนึ่ง “พเยาว์ พูลธรัตน์” เคยสร้างความสำราญ แล้วก็แรงดลใจไม่สิ้นสุดแก่ชาวไทย 

แรงดลใจ กาลครั้งหนึ่ง “พเยาว์ พูลธรัตน์” เคยสร้างความสำราญแล้วก็แรงดลใจไม่สิ้นสุดแก่ชาวไทย เมื่อเขาแปลงเป็น ฮีโร่เหรียญโอลิมปิกคนแรกของประเทศ ในตอนที่เจ้าตัวอายุเพียงแต่ 19 ปีเพียงแค่นั้น

45 ปีผ่านไป “ธิติสรรณ์กำลังสืบต่อตำนานบทใหม่ ภายหลังจากคว้าโควต้าไปลุย “โตเกียว เกมส์” ได้เสร็จในตอนวัยเดียวกับพเยาว์ กลายมาเป็นความหวังใหม่ของขุนศึกเสื้อกล้ามกลุ่มชาติไทย

ที่สำคัญหนึ่งในคู่ต่อสู้ที่ ธิติสรรณ์ปราบมาได้ มีดีกรีเป็นถึงแชมป์โลก แล้วก็ผู้ครอบครองเหรียญโอลิมปิกสมัยที่แล้วหมาดๆ เด็กวัยหนุ่มคนนี้เป็นคนไหนกัน? เพราะเหตุไรถึงแจ้งกำเนิดได้อย่างเร็วตั้งแต่การคัดเลือกตัวหนแรก?

เมนสเตจ มีเรื่องมีราวราวทางของ “ธิติสรรณ์ก่อนออกไปล่าฝันในทัวร์นาเมนต์ที่เกียรติยศ “โอลิมปิก เกมส์ 2020” มาบอกกล่าวกัน เหลิม-ธิติสรรณ์กำเนิดช่วงวันที่ 5 เดือนธันวาคม พุทธศักราช 2543 ปัจจุบันนี้อายุ 20ปี เป็นชาวอำเภอสากเหล็ก จังหวัดพิจิตร เขาเติบโตมาในสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการจับนวมต่อสู้ เนื่องจากคุณพ่อ สายันห์ ปั้นโหมด ที่มีงานประจำเป็น “กำนัน” ทำค่ายฝึกมวยเล็กๆชื่อว่า “ส.สายันห์”

ธิติสรรณ์ก็เลยคุ้นกับกับกีฬาชกมวยไทยแล้วก็เคยผ่านการขึ้นสังเวียนบนเวทีภูธรมาบ้าง มีดีกรีเป็นแชมป์ภาคเหนือ เมื่อจบการศึกษาชั้นประถมเล่าเรียน ครอบครัวมองเห็นแววเด่น ก็เลยช่วยเหลือให้เขาศึกษาต่อระดับมัธยมฯที่สถานศึกษากีฬาหน่วยงานบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก

ตรงนี้ทำให้ ธิติสรรณ์รู้จักโลกของกีฬาต่อสู้ที่มากกว่าเพียงแค่มวยไทย เขาถูกเทรนวิชามวยสากลภายใต้ฝึกการสอนของ อาจารย์ผดุงชัย พันนุมา เพียงแต่ 2ปี ธิติสรรณ์สามารถก้าวไปได้แชมป์กีฬายุวชน-เยาวชนแห่งชาติ ในปี2558

เปลี่ยนหนังสือเบิกทางสู่แคมป์มวยสากลสมัครเล่นกลุ่มชาติไทย รุ่น 49 กิโล โดย ธิติเตียนสรรณ์ ไต่เต้าสร้างผลงานในระดับเยาวชน เริ่มจาก เหรียญทองแดง ศึกเยาวชนชิงชนะเลิศทวีปเอเชีย ปี2560, เหรียญเงิน การแข่งขันชิงชัยชิงชนะเลิศเยาวชนทวีปเอเชีย ปี2561 ดูมวยสดวันนี้

แรงดลใจ

ธิติสรรณ์รู้จักโลกของกีฬาต่อสู้ที่มากกว่าเพียงแค่มวยไทย

แรงดลใจ ก่อนผงาดซิวเหรียญทอง ศึกชิงแชมป์เยาวชนโลก ในปี2560 จากผลงานอันดีเลิศ นำมาซึ่งการทำให้ท้ายที่สุด ธิติสรรณ์ ปั้นโหมด ถูกดันขึ้นสู่ กลุ่มชาติไทยชุดใหญ่ ในฐานะนักชกเบอร์ 2 ของรุ่น 52กิโลกรัม เวลาที่เจ้าตัวอายุเพียงแต่ 18 ปีแค่นั้น

ตลอดเวลา 1 ปีที่เก็บตัวฝึกซ้อมกับ ทีมชาติไทยชุดใหญ่ เขาจำต้องพบกับบททดลองทั้งร่างกายและจิตใจ ในแคมป์ที่สร้างวีรบุรุษเหรียญโอลิมปิกล้นหลาม แถมยังจำเป็นต้องปรับปรุงประสิทธิภาพความสามารถแล้วก็ร่างกายตนเอง เพื่อปราบดวงใจผู้ฝึกสอน เนื่องด้วยพิกัดนี้ มี อมฤทธิ์ เยาว์ดำ เป็นตัวเลือกแรก

ความพากเพียรไม่เคยเสียเปล่า หากแม้ถูกเรียกเป็นตัวสำรอง แต่ว่าเมื่อใดก็ตามฝึกซ้อม ธิติสรรณ์ปั้นโหมด แสดงให้ถึงความตั้งใจจริง ตั้งอกตั้งใจ พรแสวงที่เต็มเปี่ยม พร้อมทำความเข้าใจของใหม่ตลอดระยะเวลา โน่นก็เลยทำให้เมื่อจังหวะมาถึงเบื้องหน้า หนุ่มน้อยวัย 19 ปีในเวลานั้น ไม่ปลดปล่อยให้มันหลุดมือ

สต๊าฟฟ์ผู้ฝึกสอนมวยสากลสมัครเล่นกลุ่มชาติไทย ตกลงใจสลับตัวส่ง “ธิว่ากล่าวสรรณ์” ไปเป็นผู้แทนรุ่น 52 กิโลกรัม ในรอบเลือกสรร โอลิมปิกเกมส์2020 โซนทวีปเอเชีย-โอเชียเนีย โดยเขารู้สึกตัวล่วงหน้าก่อนเดินทางเพียงแค่ 3-4 วันแค่นั้น ก็จำเป็นต้องรีบเก็บกระเป๋ามุ่งเข้าสู่สนามเลือกสรรที่ประเทศจอร์แดน

รอบแรก ธิติสรรณ์เปิดฉากด้วยการเก็บชัยเหนือ ทาชิ วังจิ จากภูฏาน ผ่านไปสู่รอบสอง พบของแข็งอย่าง คิม อิน กู นักต่อยมือวางอันดับ 4 ของรายการจากประเทศเกาหลีใต้ แต่ว่าหมัดเลือดพิจิตรก็ผ่านด่านมาได้ ก่อนที่จะสืบต่อความมั่นใจและความเชื่อมั่น ปราบ อเล็กซ์ วินวูด จากประเทศออสเตรเลีย ในรอบ 8 คนในที่สุด

หลุดทะลุไปสู่รอบ 4 คนในที่สุดไปเจอกับ “ชาโคบิห์ดิน ซอยรอฟ” นักต่อยเแชมป์โลกมวยสากลสมัครเล่น รุ่น 52 กิโลกรัม รวมทั้งผู้ครอบครองเหรียญทองโอลิมปิก 2016 ชาวอุซเบกิสถาน ที่ในทัวร์นาเมนต์นี้โชว์ฟอร์มดุ ต้อนคู่ปรับมาตลอดทุกไฟต์

ก่อนต่อยคนไหนกันแน่ก็เห็นว่า ซอยรอฟ วัย 27ปี เหนือกว่า ธิติเตียนสรรณ์ ทุกด้าน แม้กระนั้นตลอด 3 ยกบนเวที กลายเป็น กำปั้นวัย 19 ปีคนประเทศไทยที่ออกอาวุธได้คมกว่าทุกยก ทำเอาหมัดเหรียญทองโอลิมปิกสมัยที่แล้วทำอะไรไม่ได้เป็นชิ้นเป็นอัน

ครบยกผู้ตัดสินยกมือให้ ธิติสรรณ์เป็นผู้ชนะ แบบไปเหนือความมุ่งหวังจำพวกที่วิทยากรภาษาอังกฤษถึงกับออกปากชมไม่หยุด ตีตั๋วไปโอลิมปิก เกมส์ ได้เสร็จ

ถึงแม้ในรอบชิงแชมป์การเลือกเฟ้นคราวนั้น “ธิติสรรณ์ปั้นโหมด” จะพ่ายให้กับ “หู จิน กวน” นักต่อยกลุ่มชาติจีน มือวางอันดับ 2 ของรายการ แต่ว่าโน่นก็พอเพียงที่จะทำให้เขาเปลี่ยนแปลงสถานะจาก กำปั้นโนเนม สู่นักต่อยที่น่าจับตาใน โอลิมปิก เกมส์2020 กำปั้นชิงชนะเลิศ